10 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ในไครเมีย

1. พระราชวังลิวาเดีย (Livadia Palace)

พระราชวังลิวาเดีย

พระราชวังลิวาเดีย (Livadia Palace) พระราชวังตากอากาศของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 เป็นพระราชวังใหม่ที่แทนที่พระราชวังเดิมหลังเล็กที่เป็นที่ตากอากาศของราชวงศ์โรมานอฟในตำบลลิวาเดียมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 พระราชวังสร้างแล้วเสร็จในปี 1911 เปิดครั้งแรกกับการฉลองวันประสูติของเจ้าหญิงโอลก้า พระราชธิดาในพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองครบ 16 ชันษา ออกแบบโดยนิโคลัย คราสนอฟ สถาปนิกชื่อดังที่ออกแบบพระราชวังโวโรนซอฟ สร้างในรูปแบบนีโอเรอเนสซองส์หรือเป็นสถาปัตยกรรมฟื้นฟูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกอิตาลีต่างๆ ตัววังเป็นอาคารหินแกรนิตสีขาวทั้งหลัง ล้อมรอบสวนอิตาลี่ขนาดย่อมที่อยู่ตรงกลาง มีลานหินอ่อนแบบอาหรับและอิตาเลี่ยน หอคอยแบบฟลอเรนซ์ หน้าต่างที่หรูหรา มีห้องหับกว่า 116 ห้อง อาทิห้องโถงสไตล์ปอมเปอี ห้องบิลเลียร์ดแบบอังกฤษ ห้องเสวยแบบนีโอบาโร้ก โดยมีไฮไลท์คือห้องสีขาวที่เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีโต๊ะยาวจุดสุดพื้นที่โถง ความสำคัญคือเป็นสถานที่ที่ใช้จัดประชุมสุดยอดยัลต้าในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยผู้นำโซเวียต อังกฤษและอเมริกา ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆยังคงถูกเก็บรักษาไว้เหมือนครั้งที่มีการประชุม

2. พระราชวังข่าน (Khan’s Palace) หรือ พระราชวังข่านแห่งบักชีซาราย (Bakhchisaray)

พระราชวังข่าน

พระราชวังข่านแห่งบักชีซาราย (Bakhchisaray) สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยข่าน ซาหิบ กิราย โดยถูกใช้เป็นที่ประทับของข่าน ในวังประกอบด้วยส่วนต่างๆหลายส่วน มีทั้งมัสยิด ฮาเร็ม สุสาน สวน และส่วนที่พักอาศัย ถูกสร้างตามสไตล์ของชาวตาต้าร์ในแถบนี้ช่วงศตวรรษที่ 16 แรงงานที่ถูกนำมาสร้างวังก็คือทาสชาวรัสเซีย และอูเครน ส่วนคนออกแบบ ก็มีทั้งอิตาลี เปอร์เซีย และ ออตโตมาน เป็นเมืองโบราณ มีประวัติย้อนไปได้ถึงปี 1502 ส่วนก่อนหน้านั้นพื้นที่นี้เป็นชุมชนที่ผู้คนตั้งบ้านเรือนมาเป็นพันปี ในสมัยรุ่งเรืองที่สุดเมืองนี้ เคยเป็นถึง เมืองหลวงของรัฐข่านไครเมีย (Crimean Khanate หรือ Khanate of Crimea)  ซึ่งเป็นรัฐของชาวตาต้าร์ ไครเมีย ชนเผ่าที่มีเชื้อสายเติร์ก ที่รุ่งเรืองอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 14-18 เมืองนี้ถูกหลายฝ่ายช่วงชิงความเป็นเจ้าของ ทำให้มันถูกทำลาย และสร้างใหม่อยู่หลายรอบ จนในที่สุดก็ถูกรัสเซียยึด หลังจากนั้นเมืองบัคชิซารายก็กลายสภาพไปเป็นเมืองธรรมดา แต่ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของชาวตาต้าร์ไครเมียที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง

 

3. ป้อมปราการเจนัว (Sudak Genoese Fortress)

ป้อมปราการเจนัว

ป้อมปราการเจนัว (Sudak Genoese Fortress) เป็นป้อมปราการเก่าแก่ที่เมือง Sudak เมืองพักตากอากาศชื่อดังของไครเมีย ตัวป้อมปราการนี้เก่าแก่มาก เพราะสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 6-7 โดยชาวไบแซนไทน์ แต่ในเวลาต่อมาชาวเจนัวได้สร้างอาณานิคมขึ้นมาในดินแดนแถบนี้ และได้บูรณะและเสริมสร้างป้อมปราการให้แข็งแรงขึ้น สิ่งก่อสร้างที่เหลือมาถึงทุกวันนี้ส่วนใหญ่คือ สิ่งที่พวกเจนัวสร้างขึ้นมานั่นเอง
ทิวทัศน์ที่บริเวณป้อมปราการส่วนมาก เพราะด้านหนึ่งเป็นภูเขา ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทะเลน้ำเงินใส ถ้ามองจากป้อมปราการแล้วจะเห็นวิวโดยรอบอย่างชัดเจน

 

4. Swallow’s Nest

swallow's nest

Swallow’s Nest หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Crimea Castle พระราชวังสไตล์โกธิคที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุคสหภาพโซเวียต ปัจจุบันถือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ Russia ตรงบริเวณคาบสมุทร Crimean ใกล้กับเมือง Yalta ติดชายฝั่งทะเลดำ พระราชวังดังกล่าวออกแบบโดย Leonid Sherwood สถาปนิกชาวรัสเซียน และก่อสร้างสำเร็จในปี 1912 ด้วยทำเลที่ตั้งของตัวปราสาทที่ตั้งติดกับหน้าผาสูง 40 เมตรชันลงสู่ทะเลดำ ทำให้สามารถชมความงามของทะเลดำได้ในมุมกว้าง ราวกับรังของนกนางนวลยังไงยังงั้น จึงเป็นที่มาของชื่อปราสาทแห่งนี้ อีกทั้ง ยังได้รับการกล่าวขานให้เป็น Castle of Love จากความโรแมนติกของบรรยากาศโดยรอบของที่นี่อีกด้วย

 

5. Chufut Kale และเมืองถ้ำอื่นๆ

Chufut Kale

Chufut Kale เป็นเมืองถ้ำ หรือถ้ำที่มีการขุดเจาะเป็นที่อยู่อาศัยจำนวนมาก เมืองถ้ำแห่งนี้เก่าแก่มาก นักประวัติศาสตร์ยังไม่แน่ชัดว่ามันมีอายุเท่าไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ มันมีอายุนานหลายร้อยปี หรืออาจจะมากกว่าหนึ่งพันปีด้วยซ้ำไป ผู้คนนับพันคนเคยอาศัยที่นี่อยู่เป็นเวลานาน และสร้างที่อยู่อาศัยด้วยการเจาะเข้าไปในถ้ำ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทิ้งที่นี่ไปในช่วงศตวรรษที่ 19 ภายในถ้ำเหลือร่องรอยไม่มากนัก ส่วนมากเหลือแต่บริเวณที่พอจะมองออกว่าเคยมีผู้คนอาศัยอยู่ในนี้ และยังมีสุสานและวิหารเล็กๆที่แสดงร่องรอยของวัฒนธรรมเดิมๆ เอาไว้

 

6. อารามถ้ำ

อารามอัสสัมชัญ

อารามถ้ำแห่งอุสเปนสกี้ Uspensky Monastery หรืออารามถ้ำอัสสัมชัญ ที่สร้างแขวนไว้บนหน้าผาเป็นอารามโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในคาบสมุทรไครเมีย สร้างในสมัยปลายศตวรรษที่ 9 โดยกลุ่มพระสงฆ์และฆราวาสที่หลบหนีคดีศาสนาจากอาณาจักรไบเซนไทน์ หลังจากที่คาบสมุทรไครเมียถูกยึดครองโดยอาณาจักร Golden Horde แห่งจักรวรรดิมองโกล พระอารามแห่งนี้ได้หยุดดําเนินการและกลายเป็น ศูนย์กลางของคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกซ์อีกครั้งในศตวรรษที่ 15

 

7. Chersonesus

chersonesus

Chersonesus เป็นซากอาณานิคมกรีกเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Sevastopol ในไครเมีย มันมีอายุมากกว่า 2,600 ปี (สร้างตั้งแต่ 600-700 ปีก่อนคริสตกาล) ทำให้เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดในไครเมียเลยก็ว่าได้

 

8. Marble Caves และ Mammoth Cave

Marble CaveMarble Caves
Mammoth CaveMammoth Cave

Marble Caves เป็นหนึ่งในถ้ำในมีชื่อเสียงมาก และได้รับการขนานนามบ่อยครั้งว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป (ก่อนจะมีความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน)
ตัวถ้ำเพิ่งจะมีการค้นพบเพียง 30 ปีที่ผ่านมานี้เอง ตัวถ้ำค่อนข้างใหญ่ และใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 80 นาที
ใกล้ๆ กับ Marble Caves มีถ้ำใหญ่อีกถ้ำหนึ่งเรียกว่า Mammoth Cave จุดเด่นของถ้ำนี้คือ มันมีซากสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์อยู่ข้างใน อาทิเช่น ช้างแมมมอธเป็นต้น
โดยทั่วไปแล้ว นักท่องเที่ยวมักจะไปถ้ำทั้งสองในทริปเดียว เพราะจะได้ชมความงามภายในถ้ำอย่างเต็มอิ่ม การเดินทางไปถ้ำทั้งสองนี้ค่อนข้างยากเพราะว่ามันอยู่ระหว่างเมือง Simferopol และ Alushta การจะเดินทางไปต้องใช้รถยนต์ ดังนั้นนักท่องเที่ยวมักจะซื้อทัวร์ไปถ้ำทั้งสองมากกว่า

 

9. Bataklava Naval Museum

Balaklava bayอ่าว Bataklava Bay
Balaklava ทางเข้าฐานทัพเรือโซเวียต

พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวเคยเป็นฐานทัพเรือดำน้ำโซเวียตมาก่อน ตัวฐานทัพนี้ถูกสร้างอย่างดีใต้ดินให้ทนต่อแรงระเบิดนิวเคลียร์ได้ นอกจากมันจะถูกใช้เก็บและซ่อมแซมเรือดำน้ำแล้ว มันยังเคยใช้เป็นที่ฝึกปลาโลมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารด้วย

 

10. Black Sea

Tsarsky

ด้วยความที่ไครเมียติดกับทะเลดำถึงสามด้าน การท่องเที่ยวแบบสบายๆจึงเป็นหนึ่งในรายได้หลักของที่นี่ ทั่วทั้งไครเมียมีรีสอร์ทมากมาย และมีหาดที่มีชื่อเสียง เช่น หาด Tsarsky หรือ หาดซาร์ อันเป็นหาดที่พวกชนชั้นสูงไฮโซมักจะมาจิบแชมเปญชมวิวเงียบๆ ที่นี่ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว สำหรับท่านใดที่ชอบดำน้ำ สามารถไปดำได้ที่แหลม Tarkhankut (Tarkhannut Cape) ใต้ทะเลของที่นี่มีเรือมากมายที่จมอยู่ตั้งแต่สมัยโบราณ จนเรียกได้ว่าเป็นสุสานเรือเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ทะเลบริเวณนั้นยังสวยมากด้วย