ในช่วงนี้อีกประเทศหนึ่งที่เป็นเรื่องการเมืองไม่แพ้ประเทศไทยก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ แล้วในช่วงหลังมีชื่อ “ไครเมีย” เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในพื้นที่สรุปเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ขึ้น
เชื่อว่าได้หลังจากได้อ่านบทความนี้แล้วจะทำให้เข้าใจสถานการณ์และติดตามข่าวหุ้นไทยต่อไปอย่างมีความสามารถเข้าใจมากขึ้น
ชื่อประเทศ“ ยูเครน” นี้มีความหมายว่า“ ชายแดน” หรือ“ ชายแดน” เพราะตามที่ตั้งแล้วยูเครนถือเป็นเส้นแบ่งระหว่างสหภาพยุโรปและรัสเซียในอดีตก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่อย ๆ จนเกิดเหตุการณ์หลายครั้งอย่างที่เกิดขึ้น กับยูเครนมาตลอดโดยเฉพาะไครเมียที่มีการย้ายไปอยู่ระหว่าง 2 ประเทศคือยูเครนและรัสเซีย
ไครเมียครั้งที่หนึ่งที่อยู่ภายใต้สหภาพแรงงาน แต่ยังคงอยู่ในขณะนี้ (รัสเซีย) ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (EU) ในพื้นที่ที่มีการติดตั้ง กันก็เป็นเรื่องง่ายกว่าดังนั้นใน ปี 1954 ไครเมียจึงออกจากรัสเซียและ ผนวกเข้าร่วมกับยูเครนและตั้งตัวเป็นเขตปกครองตนเอง
67% ของประชากรในประเทศยูเครนพูดภาษา ูเครนอีก 30% พูดภาษารัสเซียพื้นที่ในซีกตะวันออกของยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของการตั้งค่าไครเมียก็พูดภาษารัสเซียเป็นส่วนใหญ่ด้วยความรู้สึกแตกต่างกัน ต้องการที่จะเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปและความต้องการที่จะเข้าร่วมกับรัสเซีย
เป็นตัวละครสำคัญที่จุดประกายเรื่องนี้ขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2013 ยานูโควิชประกาศว่ายูเครนจะยกเลิกสัญญาความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปและเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับรัสเซียและที่เป็น จุดเริ่มต้นของการชุมนุมที่ประสบความสำเร็จในกรุงเคียฟของผู้ที่ไม่เห็นด้วย แรงระหว่างทหารตำรวจและผู้ชุมนุมมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากวันรุ่งขึ้นยานูโควิชหายตัวไปจากยูเครนผู้ชุมนุมได้รับชัยชนะและสร้างรัฐบาลชั่วคราวขึ้นเพื่อรอการเลือกตั้งครั้งใหม่
เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เพราะประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน บุกเข้ายึดไครเมียเพื่อคุ้มครองชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในนั้น และปกป้องอุปกรณ์ทางทหารที่ติดตั้งไว้ เนื่องจากรัฐบาลใหม่ของยูเครนมีการออกกฎหมายตั้งภาษายูเครนภาษาเดียวเท่านั้นเป็นภาษาทางการของประเทศ ทั้งๆ ที่คนจำนวนมากพูดภาษารัสเซีย และ 17% ของประชากรก็มีพื้นเพเป็นชาวรัสเซีย แถมยังต้องการให้ประเทศยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเอาขีปนาวุธของ NATO มาใกล้พรมแดนรัสเซีย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียยอมไม่ได้
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2014 ที่ผ่านมา ไครเมียได้ทำประชามติและยอมผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียไปเรียบร้อย
สิ่งที่ยูเครนต้องการคงจะเป็นเสถียรภาพ และต้องเป็นเสถียรภาพที่มีระยะเวลายาวนาน เพื่อให้ยูเครนสามารถสร้างตัวตนของตัวเอง สร้างความสัมพันธ์กับทั้งสหภาพยุโรปและรัสเซียโดยไม่ถูกควบคุมจากทั้ง 2 ฝ่าย แต่ความต้องการที่ว่านั้นดูจะห่างไกลออกไปทุกที
เชื่อว่าการต่อสู้ในยูเครนนั้นยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะทางสหรัฐอเมริกาก็เริ่มมีการแทรกแซงในเรื่องนี้บ้างแล้ว ซึ่งจะพูดถึงสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นต่อไปในครั้งหน้า พร้อมทั้งท่าทีของผู้นำประเทศมหาอำนาจต่างๆ อย่าง จีน อินเดีย ก็ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้เช่นกัน