สำหรับประวัติความเป็นมาของไครเมียนั้น รัสเซียได้ครอบครองไครเมียมานานกว่า 200 ปี โดยได้ผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ในปี 1783 อย่างไรก็ตาม ในปี 1954 ในสมัยของสตาลิน สหภาพโซเวียตได้โอนไครเมียไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของยูเครน อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ในไครเมียเป็นชาวรัสเซียถึง 60 % โดยมีชาวยูเครนเพียง 24 %
ไครเมียมีสถานะเป็นสาธารณรัฐที่เป็นเขตปกครองตนเอง มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา และมีนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ Kiev สภาของไครเมียและนายกรัฐมนตรี Sergei Aksyonov ซึ่งต้องการให้ไครเมียกลับไปรวมกับรัสเซีย ได้จัดให้มีการลงประชามติ ซึ่งผลการทำประชามติก็ออกมาว่า ชาวไครเมียส่วนใหญ่ซึ่งก็เป็นชาวรัสเซีย ต้องการที่จะให้ไครเมียกลับไปรวมกับรัสเซีย อย่างไรก็ตามรัฐบาลยูเครนคัดค้านการทำประชามติโดยบอกว่าไม่ถูกกฏหมาย เช่นเดียวกับตะวันตก ก็ไม่ยอมรับกับผลการลงประชามติเช่นกัน
สำหรับรัสเซียซึ่งมีกองกำลังทหารอยู่ในไครเมีย และมีฐานทัพเรือใหญ่ที่เมือง Sevastopol ถือเป็นฐานทัพเรือใหญ่ของรัสเซียในทะเลดำ โดยปูตินก็ได้รับไฟเขียวจากสภาของรัสเซียให้ส่งทหารเข้าไปไครเมียและยูเครนได้ โดยรัสเซียมองว่า การโค่นรัฐบาล Yanukovich เป็นการทำรัฐประหารเงียบ และมองว่า รัสเซียมีความชอบธรรมที่จะส่งทหารเข้าไปเพื่อปกป้องชาวรัสเซียในยูเครนและไครเมีย