ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครน

    ‘โวโลดิมีร์ เซเลนสกี’ นักแสดงตลกเสียดสีชาวยูเครนได้รับคะแนนนำโด่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก คาดว่าเป็นเพราะ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในยูเครนได้

ประธานาธิบดียูเครน

    ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนรอบเเรกเมื่อวันอาทิตย์ที่่ 31 มี.ค. 2562 ‘โวโลดิมีร์ เซเลนสกี’ นักแสดงตลกเสียดสีได้รับการโหวตจากประชาชนกว่า 30.45 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีทั้งหมด 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิทั่วประเทศ ซึ่งทิ้งห่างจากนายเปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของยูเครนที่ได้รับคะแนนโหวตเพียง 16.22 เปอร์เซ็นต์

นักแสดงตลก ประธานาธิบดียูเครน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังยูเครนประกาศปฏิรูปประเทศโดยประธานาธิบดีโปโรเซนโก ซึ่งทำให้ยูเครนประสบกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมถึงไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียกรณีดินแดนไครเมียที่ยืดเยื้อมานานได้

    เซเลนสกี นักแสดงตลกทางโทรทัศน์ของยูเครน วัย 41 ปี ไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านการเมืองมาก่อน และการลงท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเขารับบทบาทในรายการโทรทัศน์เป็นครูในโรงเรียนมัธยมที่ต่อต้านการคอร์รัปชัน ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของประเทศ และการแสดงดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ของยูเครน คาดว่าส่งผลให้เขาตัดสินใจลงสมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จนได้รับชัยชนะในรอบแรก

    เซลนสกี ผู้ถือเป็นม้ามืดสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนในครั้งนี้กล่าวว่า นี่ถือเป็นชัยชนะก้าวแรกของชาวยูเครนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ เซเลนสกียังประกาศว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เขาจะสนับสนุนให้ยูเครนรวมตัวกับสหภาพยุโรป (EU) และเปิดการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียเพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในดินแดนไครเมีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน

    ขณะที่ประธานาธิบดีโปโรเชนโกกล่าวในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ที่ผ่านมาเขาเห็นและได้ยินสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการและเข้าใจถึงการประท้วงที่เกิดขึ้น” นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับชาวยูเครนที่จะต้องตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นผู้นำประเทศ ผู้ที่จะเป็นตัวแทนไปหารือในที่ประชุมนานาชาติกับผู้นำตะวันตกและรัสเซีย”

    เส้นทางสู่ประธานาธิบดีของเซเลนสกียังคงอีกยาวใกล้ เนื่องจากกฎหมายการเลือกตั้งของยูเครนระบุว่า หากการโหวตประธานาธิบดีในรอบแรกนั้นไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ จะต้องมีการลงคะแนนเลือกตั้งรอบที่สอง ซึ่งการลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีครั้งที่ 2 นี้จะมีขึ้นในวันที่ 21 เม.ย.2562

ที่มา : VOICE online